วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โซนี่ยัน "PSP Go" รองรับแอพพลิเคชั่นอื่นที่ไม่ใช่เกมด้วย

โซนี่ ยืนยันว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ตัดสินใจลดราคาชุดพัฒนาบน เครื่อง PSP ลง 80 เปอร์เซนต์ เพื่อต้องการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เกม นำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจลงให้กับเครื่องในงาน E3 2009 โซนี่ได้เปิดตัว "PSP Go" เครื่องเกมพกพารุ่นปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ฟีเจอร์ของ PSP Go ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กลง 50% และเบาลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่น 3000 ไดรฟ์ UMD จะถูกตัดออกไป ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชในตัว 16GB รองรับไวไฟ,บลูทูธและสามารถใช้เมโมรี่สติ๊กไมโคร (M2) ได้ด้วย ส่วนราคาจะอยู่ที่ 249.99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,500 บาท) และ249.99 ยูโร ซึ่งแพงกว่ารุ่น 3000 เดิม กำหนดออกวันที่ 1 ตุลาคมนี้นอกจากการเปิดตัวเครื่องเกมพกพารุ่นปรับโฉมใหม่ โซนี่ระบุอีกด้วยว่า ได้ทำการลดราคาชุดพัฒนาบนเครื่อง PSP ลง 80 เปอร์เซนต์ ล่าสุด "Al De Leon" ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโซนี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNET ยืนยันว่าหนึ่งในเหตุผลที่ลดราคาชุดพัฒนา เนื่องจากว่าต้องการให้เหล่านักพัฒนาหลายๆคนเข้ามามี ส่วนร่วม โดยไม่อยากให้คิดว่าจะต้องเป็นการพัฒนาเพียงเฉพาะวิด ีโอเกมเท่านั้น"สิ่งหนึ่งที่เราได้ประกาศในงาน E3 คือการลดราคาชุดพัฒนาบนเครื่อง PSP เป้าหมายที่เราทำอย่างนั้นเพื่อต้องการให้นักพัฒนาทุ กประเภทสามารถพัฒนาคอนเทนต์ป้อนให้กับเครื่อง PSP ได้ ซึ่งคอนเทนต์ส่วนมากน่าจะเป็นเกม แต่มันจะเปิดโอกาสให้แอพพลิเคชั่นอื่นที่ไม่ใช่เกมเข ้ามาอีกด้วย"

ข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการออนไลน์
gamespot.com
joystiq.com

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เม้าส์คอมพิวเตอร์อาจถูกเลิกใช้ในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า

เม้าส์คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์มานานเกือบ 40 ปี แต่ล่าสุด บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ คาดว่า เม้าส์คอมพิวเตอร์อาจถูกเลิกใช้ในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า

เม้าส์คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์มานานเกือบ 40 ปี แต่ล่าสุด บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ คาดว่า เม้าส์คอมพิวเตอร์อาจถูกเลิกใช้ในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวิธีสั่งการเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น อาจใช้วิธีจิ้มนิ้วไปที่หน้าจอ หรือ ใช้วิธีจดจำใบหน้าผู้ใช้งาน
นักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ มองว่า เม้าส์คอมพิวเตอร์อาจใช้ได้ดีกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ แต่ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์เพื่อให้ความบันเทิงในบ้าน หรือคอมพิวเตอร์แบบพกพา การกดปุ่มคำสั่งโดยใช้วิธีลากเม้าส์จะหมดความหมายไปในทันที
หลายบริษัทกำลังปรับปรุงรูปแบบการใช้คอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องมีสายเม้าส์มาคอยควบคุมให้ยุ่งยาก เช่น บริษัทไมโครซอฟท์ ที่พัฒนาคอมพิวเตอร์แบบจอสัมผัส หรือ ทัช สกรีน เพียงแค่ใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าจอ ก็สามารถควบคุมการใช้งานของเครื่องได้แล้ว คอมพิวเตอร์บางเครื่อง แค่ให้ผู้ใช้งานครอบอุปกรณ์บางอย่างบนศีรษะ แล้วใช้วิธีสั่งเครื่องโดยการคิด อุปกรณ์ชุดนี้จะหาซื้อได้ในเดือนกันยายน นอกจากเม้าส์คอมพิวเตอร์แล้ว อุปกรณ์รีโมทคอนโทรล ก็มีแนวโน้มจะใช้งานน้อยลงเช่นกัน เพราะล่าสุด พานาโซนิก ได้พัฒนาโทรทัศน์ให้จดจำใบหน้าของผู้ใช้งานเอาไว้ เมื่อต้องการเปิดโทรทัศน์ ก็แค่ไปยืนหน้าจอ จากนั้น จะมีเมนูช่องต่างๆ ผุดขึ้นมาให้เลือก ผู้ใช้งานเพียงแค่ขยับมือ โทรทัศน์ก็จะเปลี่ยนช่องให้ตามที่เลือกไว้ ส่วนโซนี่ และแคนนอน ก็กำลังพัฒนากล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหว และกล้องถ่ายรูป ให้ใช้วิธีจดจำใบหน้าผู้คนให้ได้เช่นกัน บางรุ่นตั้งโปรแกรมจะถ่ายภาพเฉพาะคนยิ้มเท่านั้น ถ้าไปเจอคนกำลังยิ้ม กล้องก็จะถ่ายภาพเองโดยอัตโนมัติ


credit : MCOT

Intel เผย Centrino 2 มาตรฐานใหม่สำหรับ Notebook

หลังจากเจอโรคเลื่อนมาเกือบ 3 สัปดาห์ ในที่สุด Intel ก็ได้ประกาศแพลตฟอร์มใหม่สำหรับ Notebook ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า Centrino 2

หลังจากเจอโรคเลื่อนมาเกือบ 3 สัปดาห์ ในที่สุด Intel ก็ได้ประกาศแพลตฟอร์มใหม่สำหรับ Notebook ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อว่า Centrino 2 โดยในครั้งนี้ได้ประกาศออกมาพร้อมกันถึง 2 เวอร์ชัน คือ Centrino 2 เป็นเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และ Centrino 2 vPro สำหรับผู้ใช้งานในธุรกิจ
Centrino 2 ระบบ Wi-Fi ใน Centrino 2 ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน 802.11n(ยังเป็น 802.11 draft n) ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า 802.11b ประมาณ 5 เท่า และมีรัศมีการรับส่งสัญญาณได้ไกลขึ้นเกือบ 2 เท่า
ในส่วนของกราฟฟิกและมัลติมีเดีย Centrino 2 ได้ถูกวางมาตรฐานเพื่อรองรับกับการเล่นมัลติมีเดียแบบ High Defination (HD) ซึ่งพุ่งเป้าไปที่การเล่นแผ่นหนังแบบ Blu-Ray โดยในมาตรฐาน Centrino 2 นี้ เครื่อง Notebook จะต้องสามารถเล่นแผ่นหนัง Blu-Ray ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เท่านั้น
สำหรับซีพียูที่จะเข้าในมาตรฐาน Centrino 2 จะเป็นซีพียูรุ่นใหม่ที่ทางอินเทลกำลังจะปล่อยออกมา โดยในเบื้องต้นมีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นซีพียูที่ทาง lntel ยืนยันว่าเป็นซีพียูรุ่นที่แรงที่สุดในบรรดาซีพียูสำหรับ Notebook ทั้งหมด
นอกไปจากนั้นชิพเซ็ตตัวใหม่ในมาตรฐาน Centrino 2 จะเป็นชิพเซ็ตที่มีระบบประมวลผลกราฟฟิกในตัว และยังสามารถสลับการทำงานกับชิพประมวลผลกราฟฟิกอื่นๆได้(ชิพการ์ดจอแยก) โดยในสภาวะปกติ ระบบจะเปิดใช้เฉพาะการประมวลผลจากชิพฟราฟฟิกในตัว(ออนบอร์ด) แต่หากต้องการพลังการประมวลผลที่มากขึ้นก็สามารถสลับไปใช้ชิพการ์ดจอแยกที่มีอยู่ในเครื่องได้ทันที
ใน Centrino 2 ยังมีระบบประหยัดพลังงานแบบใหม่ ที่เรียกว่า HUGI (Hurry Up and Get Idle) ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาให้เร่งการประมวลผลต่างๆของซีพียูให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้ซีพียูกลับไปอยู่ในสภาวะว่างงานโดยเร็ว ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยทางอินเทลอ้างว่า CPU 2.8 GHz รุ่นใหม่ใน Centrino 2 จะใช้พลังงานน้อยกว่าซีพียู 2.33 GHz ในการทำงานเดียวกัน 60% แต่จะสามารถทำงานเสร็จได้เร็วขึ้น 30 วินาที

แพลตฟอร์ม Centrino 2 มีกำหนดเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 16 กรกฏาคมนี้ โดยจะเป็นการเปิดตัวของ Intel พร้อมกันพันธมิตรผู้ผลิต Notebook ต่างๆ ซึ่ง ณ ขณะนี้มี Notebook จากทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ที่ผ่านมาตรฐาน Centrino 2 พร้อมเปิดตัวแล้วกว่า 240 รุ่น
ท้ายที่สุด Intel ยังประกาศอีกว่าพร้อมจะเปิดตัว Centrino 2 รุ่นใหม่เพิ่มอีก 1 เวอร์ชัน ซึ่งจะเป็นเวอร์ชันที่มาพร้อมกับ Wi-Max ซึ่งคาดว่าจะประกาศเปิดตัวได้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้


credit : TechXcite

Intel Quad-core ลง Notebook เดือนหน้า

เราจะนำ quad-core ลงเครื่องพกพาในเดือนสิงหาคมนี้

Sujan Kamran ผู้จัดการการตลาดประจำภูมิภาค ของอินเทลสิงคโปร์ กล่าวว่า "เราจะนำ quad-core ลงเครื่องพกพาในเดือนสิงหาคมนี้" ถึงกระนั้น Sujan ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของซีพียู Quad-core ที่จะมาอยู่ใน Notebook ดังกล่าว สำหรับซีพียู Quad-core ใน Notebook นี้จะใช้ชื่อรุ่นว่า Core 2 Extreme
ซีพียู Quad-core รุ่นที่จะนำมาขายในตลาด Notebook ยังมีข้อกังขา ว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีกว่าซีพียู Dual-core ที่มีอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน และมากพอที่จะแลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้น กับการกินไฟที่มากขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุด มีผู้ผลิต Notebook ใน Australian ในชื่อยี่ห้อ Pioneer ได้สั่งชีพียู Quad-core ในรุ่น 2.53GHz Core 2 Extreme chip (QX9300) เพื่อนำไปประกอบใน Notebook ที่กำลังจะวางจำหน่ายแล้ว โดยการเปลี่ยนรุ่นซีพียูในครั้งนี้ส่งผลทำให้ราคา Notebook ของ Pioneer เพิ่มขึ้นอีก 100 เหรียฐออสเตรเลีย (ประมาณ 3,300 บาท) จาำก Notebook ที่ใช้ชิพ Dual-core ที่มีความเร็วใกล้กัน


credit : TechXcite

ข้อผิดพลาดในอินเทอร์เน็ต แฮกเกอร์ลวงเข้าเว็บปลอม!


ถ้าปล่อยไว้ จะทำให้พวกแฮกเกอร์หลอกผู้ใช้งานเข้ามาในเว็บเพจปลอมได้สำเร็จ แม้ผู้ใช้จะพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ถูกต้องแล้วก็ตาม



ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เผยซอฟต์แวร์ตัวใหม่ ช่วยแก้ข้อผิดพลาดที่บังเอิญพบในระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งถ้าปล่อยไว้ จะทำให้พวกแฮกเกอร์หลอกผู้ใช้งานเข้ามาในเว็บเพจปลอมได้สำเร็จ แม้ผู้ใช้จะพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ถูกต้องแล้วก็ตาม

นายแดน เคมินสกี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ตในสหรัฐ เป็นผู้ค้นพบข้อผิดพลาดที่เกิดกับระบบ โดเมน เนม ซิสเต็ม หรือ ดีเอ็นเอส เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ดีเอ็นเอสจะเป็นตัวเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ที่พิมพ์เข้าไป ให้กลายเป็นลำดับตัวเลขเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สืบค้นและดึงเว็บไซต์ดังกล่าวมาปรากฏบนหน้าจอต่อไป
แต่ข้อผิดพลาดที่พบนั้น จะทำให้ระบบการทำงานของดีเอ็นเอสเกิดขัดข้อง แม้ผู้ใช้จะพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้องแล้วก็ตาม แต่เว็บไซต์ที่ปรากฏบนหน้าจออาจเป็นเว็บปลอม ถ้าผู้ใช้งานพิมพ์ตัวเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวลงในเว็บไซต์ ก็อาจเป็นช่องทางให้พวกมิจฉาชีพนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้
นายคามินสกี้ ได้นำเรื่องนี้เข้าหารือกับบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น ไมโครซอฟท์ ซัน และซิสโก้ จึงได้จัดหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันศึกษาปัญหาดังกล่าวอยู่นานหลายเดือน จนท้ายที่สุด ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาแก้ปัญหานี้ และจะเปิดให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น


credit : TechXcite

Apple เผย MobileMe พร้อมให้บริการภายในสองวันนี้

สัญญาณการเปิดให้บริการดังกล่าวถูกส่งไปให้กับกลุ่มผู้ใช้ .Mac ผ่านทางอีเมล ถึงการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันสำหรับบริการออนไลน์ของ Apple

สัญญาณการเปิดให้บริการดังกล่าวถูกส่งไปให้กับกลุ่มผู้ใช้ .Mac ผ่านทางอีเมล ถึงการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันสำหรับบริการออนไลน์ของ Apple ซึ่งจะส่งผลให้ต้องมีการออฟไลน์ระหว่างช่วงเวลา 6 โมงเย็น ไปถึงเที่ยงคืน โดยบริการ MobileMe จะเปิดตัวให้ได้ “เร็วที่สุด” ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว (หากนับเวลาบ้านเราคงเป็นช่วงเช้าวันพฤหัสบดี)
“สมาชิกของ .Mac จะไม่สามารถเข้าใช้งาน www.mac.com หรือบริการอื่นๆ ของ .Mac ได้ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว” ผู้ให้ข้อสังเกตระบุ “นอกจากนี้ยังมีการงดใช้ .Mac Mail ซึ่งเป็นบริการอีเมลของชาวแมคบนเดสก์ท็อป ไอโฟน และไอพ็อด ทัชอีกด้วย
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าบริการ MobileMe จะเปิดให้บริการพร้อมๆ กับการอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 2.0 ของไอโฟน ซึ่งเป็นแผนการสร้างความใกล้ชิดระหว่างผู้ใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple ในโลกออนไลน์มากขึ้น


credit : TechXcite

Apple ประกาศหั่นราคาของ MacBook Air รุ่นที่ใช้ SSD แล้ว

นอกจากการหั่นราคาลงของ MacBook Air ก็ยังได้อัพเกรดหน่วยประมวลผลจากเดิม 1.6GHz มาเป็น 1.8GHz

นอกจากการหั่นราคาลงของ MacBook Air ก็ยังได้อัพเกรดหน่วยประมวลผลจากเดิม 1.6GHz มาเป็น 1.8GHz (ราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 200 เหรียญฯ เป็น 300 เหรียญสหรัฐ) ทั้งรุ่นที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชและฮาร์ดดิสก์ ทั้งนี้การใช้หน่วยความจำแบบแฟลชแทนฮาร์ดดิสก์ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ จะช่วยให้ระบบมีเสถียรภาพในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อความเสียหายของข้อมูลได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติอีกด้วย


credit : TechXcite

จีนประดิษฐ์จานบิน แอนนาโนวา

บริษัทในจีนประดิษฐ์จานบินที่สามารถควบคุมจากระยะไกล สามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้ที่ระดับความสูง 3,200 ฟุตบริษัทในจีนประดิษฐ์จานบินที่สามารถควบคุมจากระยะไกล สามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้ที่ระดับความสูง 3,200 ฟุต
การทดลองจานบินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ฟุตลำนี้ ประสบความสำเร็จบนท้องฟ้าเมืองฮาร์บินในมณฑลเฮย์หลงเจียง จานบินดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ตรวจสภาพไฟป่าและการช่วยเหลือกู้ภัยบนตึกสูง โดยยานลำนี้สามารถบินอยู่ในอากาศได้นาน 40 นาที ด้วยความเร็ว 80.45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บริษัท ฮาร์บิน สมาร์ท สเปเชียล แอร์โรคราฟ ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านปอนด์ (126 ล้านบาท) และเวลานาน 12 ปีในการพัฒนายานต้นแบบ ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายเช่นถ่ายภาพทางอากาศ สำรวจทางธรณีวิทยาและช่วยเหลือกู้ภัยฉุกเฉินขนาดย่อม คาดว่าจะสามารถนำออกจำหน่ายได้ในเดือนกันยายนนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคา
ยานบินดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยใบพัด สามารถควบคุมด้วยเครื่องบังคับจากระยะไกลหรือตั้งโปรแกรมการบินไว้ล่วงหน้า.


credit : MCOT

บิลล์ เกตส์ เลิกกุมบังเหียนบริหารไมโครซอฟท์

นายบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีใจบุญจะอยู่บริหารบริษัทไมโครซอฟท์ในวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนจะรามือผันตัวเองไปทำงานด้านการกุศลอย่างเต็มตัว

นายบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีใจบุญจะอยู่บริหารบริษัทไมโครซอฟท์ในวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนจะรามือผันตัวเองไปทำงานด้านการกุศลอย่างเต็มตัว แต่ถึงกระนั้นเขาจะยังรั้งตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการบริษัทและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของไมโครซอฟท์ต่อไป
นายบิลล์ เกตส์ วัย 52 ปี ได้ส่งมอบอำนาจหน้าที่ในการบริหารให้แก่พนักงาน 3 คน โดยนายเรย์ ออซซี่ จะมาเป็นผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ นายเครก มุนได จะเป็นผู้บริหารฝ่ายวิจัยและวางกลยุทธ์บุคคล ส่วนนายสตีฟ บอลล์เมอร์ อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของนายเกตส์ จะเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอของไมโครซอฟท์
นายเกตส์ ตัดสินใจเดินทางออกจากสำนักงานของไมโครซอฟท์ ในช่วงที่ไมโครซอฟท์กำลังรับศึกหนักจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และยังต้องรับมือกับคู่แข่งรายใหม่ คือ กูเกิล รวมถึงคู่ปรับเก่าอย่าง แอปเปิล
โดยเฉพาะกูเกิ้ลที่เสนอทางเลือกใหม่ด้วยการเปิดโปรแกรมคอมพิวเตอร์หลากรูปแบบให้ใช้งานโดยไม่คิดสตางค์ สวนทางกับไมโครซอฟท์ ที่ต้องให้ผู้บริโภคเสียเงินซื้อโปรแกรมมาก่อนจึงจะใช้งานได้ จึงทำให้โปรแกรมของกูเกิ้ลได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ วิสต้า ของไมโครซอฟท์ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่แล้ว ก็ยังไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้า เพราะหลายคนยังเคยชินกับการใช้วินโดว์ เอ็กซ์พี ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นก่อน


credit : MCOT

ญี่ปุ่นเปิดตัวเครื่องร้องคาราโอเกะเล็กที่สุดในโลก

บริษัทของเล่นญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวเครื่องร้องคาราโอเกะขนาดเล็กที่สุดในโลกในปีนี้

บริษัทของเล่นญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวเครื่องร้องคาราโอเกะขนาดเล็กที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีขนาดกะทัดรัดเพียง 7 ซม. เพื่อให้เด็กๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อบได้ฝึกซ้อมร้องเพลงเอง
เครื่องร้องคาราโอะรุ่นนี้ ประกอบไปด้วยชุดหูฟังและไมโครโฟน ซึ่งผู้ร้องจะได้ยินเสียงเพลงโดยไม่รบกวนผู้อื่น นอกจากนี้ ยังสามารถเสียบชุดหูฟังได้อีกชุด หรือจะเลือกเปิดลำโพงให้เสียงดังก็ได้ เหมาะสำหรับกลุ่มนักเรียนหญิง ที่คลั่งไคล้นักร้องเพลงป๊อป
บริษัทโทมี่ ระบุว่า จะเริ่มวางจำหน่ายเครื่องร้องคาราโอเกะจิ๋วในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป โดยหวังดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นเยาว์ที่ไม่สามารถเข้าใช้บริการร้านคาราโอเกะที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่นได้ ส่วนราคาอยู่ที่ 10,000 เยน (ราว 3,200 บาท) แต่ลูกค้าจะต้องซื้อกล่องบรรจุข้อมูลราคา 2,000 เยน (ราว 620 บาท) ที่บรรจุเพลงไว้ 10 เพลง และสามารถดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มได้อีก
คาราโอเกะกลายเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับแต่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 2514 โดยนายไดซูเกะ อิโนอุเอะ นักคีย์บอร์ด ที่คิดหาดนตรีให้กับลูกค้าที่ต้องการร้องเพลงระหว่างเดินทางไปกับบริษัท และในปัจจุบันก็มีกระแสความนิยมใหม่ในญี่ปุ่นที่เรียกว่า “ฮิโตะคารา” หมายความว่า การออกไปร้องคาราโอเกะตามลำพัง.

credit : MCOT

ท่องเน็ตขณะทำงานใช่ว่าไม่ดีเสมอไป นิวยอร์ก

ผลการศึกษาใหม่แนะว่า การที่ฝ่ายบริหารพยายามสกัดไม่ให้พนักงานท่องอินเทอร์เน็ตขณะทำงานอาจไม่เป็นผลดี

ผลการศึกษาใหม่แนะว่า การที่ฝ่ายบริหารพยายามสกัดไม่ให้พนักงานท่องอินเทอร์เน็ตขณะทำงานอาจไม่เป็นผลดี เพราะไปลดความพึงพอใจในการทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
อาร์ เคลลี แกร์เรตต์ อาจารย์นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยโอไฮโอ และเจมส์ เอ็น แดนซิกเกอร์ อาจารย์ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศและองค์กร มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เผยผลการศึกษาหวังลบทัศนะที่ว่า คนท่องอินเทอร์เน็ตขณะทำงานคือคนอู้งาน เพราะพบว่า คนเข้าอินเทอร์เน็ตขณะทำงานมีตั้งแต่ผู้จัดการอาวุโส ไปจนถึงพนักงานระดับล่างสุด หลายคนมีเหตุผลอันสมควร เช่น มีความรับผิดชอบส่วนตัวที่ต้องทำให้ลุล่วง หากสามารถจัดการเรียบร้อยจากที่ทำงานจะช่วยให้ตั้งใจทำงานที่อยู่ตรงหน้าได้เต็มที่ ดังนั้น การที่ฝ่ายบริหารติดตั้งซอฟต์แวร์วสกัดการเข้าเว็บไซต์ และการส่งอีเมลอาจส่งผลร้าย เพราะจะทำให้พนักงานไม่พึงพอใจในการทำงาน ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพลดลง
การศึกษานี้ได้จากการวิเคราะห์ผลการสุ่มสำรวจทางโทรศัพท์กับคน 1,204 คน ช่วงฤดูร้อนปี 2549 อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดว่าพนักงานประเภทไหนชอบใช้อินเทอร์เน็ตในเรื่องส่วนตัว แต่ได้แนะให้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงจูงใจในการใช้อินเทอร์เน็ตขณะทำงาน และการวัดผลที่มีต่อประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อให้บริษัทนำไปประเมินว่าควรอำนวยความสะดวกเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตในที่ทำงานมากน้อยเพียงใด


credit : MCOT

ยาฮูเพิ่มฟรีอีเมลแอดเดรสส์

ยาฮูเพิ่มฟรีอีเมลแอดเดรสส์อีก 2 ชื่อ หวังตอกย้ำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของบริษัท รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ยาฮูเพิ่มฟรีอีเมลแอดเดรสส์อีก 2 ชื่อ หวังตอกย้ำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของบริษัท รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจาก "@yahoo.com" แล้ว บริษัทยาฮู ผู้ดูแลเครือข่ายไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง ยังเพิ่มอีเมลแอดเดรสส์ใหม่อีก 2 ชื่อ คือ "@ymail.com" และ "@rocketmail.com" ไว้ให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ตามใจชอบ สำหรับบางคนที่อาจจะเบื่อชื่อ "@yahoo.com" หรืออาจใช้พื้นที่ในอีเมลแอดเดรสส์เดิมจนเต็มแล้ว
ยาฮู เมล เป็นเว็บไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เพราะเปิดพื้นที่ให้ผู้ใช้งานได้รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันอย่างเต็มที่ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผลกำไรของยาฮูมาจากรายได้โฆษณาที่โพสต์อยู่ในเว็บไซต์ซึ่งมีผู้ใช้งานมากถึง 266 ล้านคนทั่วโลก
ยาฮูเร่งปรับรูปแบบการให้บริการ หลังผู้ถือหุ้นบางกลุ่มไม่ค่อยพอใจที่ผู้บริหารยาฮู ไม่ยอมรับข้อเสนอของไมโครซอฟท์ ที่จะซื้อกิจการของยาฮูเป็นมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท ผู้ถือหุ้นบางคนยังมีแผนระดมเสียงสนับสนุนไล่คณะกรรมการบริหารบริษัทยาฮูออกทั้งหมด ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี วันที่ 1 ส.ค.นี้ เพราะเห็นว่า ทำให้ผู้ถือหุ้นเสียผลประโยชน์ที่ไม่ยอมไปควบรวมกิจการกับไมโครซอฟท์


credit : MCOT

2 ผู้ก่อตั้ง Flickr ลาออกจาก Yahoo แล้ว

ดูเหมือนว่า หลังจากที่ ยาฮู ปฏิเสธการซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ สถานการณ์ของบริษัท ก็ไม่สู้ดีนัก

ดูเหมือนว่า หลังจากที่ ยาฮู ปฏิเสธการซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์ สถานการณ์ของบริษัท ก็ไม่สู้ดีนัก อย่างที่รู้ๆกันดีว่า พอยาฮู ปฏิเสะไมโครซอฟท์ปุ๊บ หุ้นก็ตกลงปั๊บ แต่มันยังไม่จบ เมื่อคราวนี้ 2 ผู้ก่อตั้ง Flickr บริการแชร์รูปภาพออนไลน์ 1 ในบริการยอดฮิตที่ Yahoo ซื้อมาตั้งแต่ ปี 2005 ยื่นลาออกจากบอร์ดบริหารของ Yahoo แล้ว คาดว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ Yahoo ปฏิเสธ ไมโครซอฟท์นั่นเอง
โดย 2 ผู้ก่อตั้ง Flickr ที่ว่านี้ ได้แก่ Caterina Fake และ Stewart Butterfield 2 สามีภรรยา ซึ่ง Catrina ลาออก จาก Yahoo ไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ที่ผ่านมา ( เลือกวันลาออกได้เหมาะจริงๆ ) ส่วนสามีของเธอนั้น จะลาออกในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจนถึงบัดนี้ ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลาออกครั้งนี้ของทั้ง สองคน
คาดว่าการลาออกครั้งนี้ ของ 2 ผู้ก่อตั้ง Flickr คงทำให้สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของ Yahoo เลวร้ายลงไปอีกเป็นแน่ และต้องรอติดตามกันด้วยว่าหลังจากการลาออกในครั้งนี้ Flickr จะไปในทิศทางไหน อีกไม่นาน คงจะมีความคืบหน้าออกมาแน่ ต้องรอดู


credit : TechXcite








Google ฉลอง 10 ขวบ ด้วยโครงการ 10ยกกำลัง100 เพื่อสังคม

โดยจัดโครงการเพื่อสังคมในชื่อ "10ยกกำลัง100" ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วโลกร่วมเสนอความคิดในการเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่

Google ฉลองครบรอบการก่อตั้งครบ 10 ปี โดยจัดโครงการเพื่อสังคมในชื่อ "10ยกกำลัง100" ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนจากทั่วโลกร่วมเสนอความคิดในการเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่ขึ้นด้วยการช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากที่สุด ความคิดที่ผ่านการคัดเลือก 5 ความคิดจะได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Google 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
วันนี้(27 กันยายน 2551) เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 10 ของ Google ซึ่งในปีนี้ Googleได้สร้างหน้า website พิเศษสำหรับวันเกิดปีที่ 10 นี้เอาไว้ที่ http://www.google.co.th/tenthbirthday/ และที่พิเศษสุดๆสำหรับวันเกิดปีนี้คือโครงการเพื่อสร้างสรรค์สังคมในชื่อโครงการ "10ยกกำลัง100" ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระบบความคิดจากคนทั่งโลกเพื่อหาวิธีที่จะช่วยเหลือกผู้คนในโลกนี้ให้ได้มากที่สุด
โครงการ "10ยกกำลัง100" เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถส่งความคิดดีๆที่จะช่วยเหลือผู้คนบนโลกนี้ผ่านทาง website http://www.project10tothe100.com/intl/TH/how_it_works.html (ภาษาไทย) ซึ่งจะเปิดรับความคิดถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2551 นี้เท่านั้น โดย google เปิดกว้างรับทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่ได้ถูกนำมาทำเป็นโครงการแล้ว หรือความคิดเห็นที่ยังไม่ได้เริ่มทำ
สำหรับทุกความคิดเห็นที่ถูกส่งมายัง Google จะถูกคัดเลือกให้เลือก 100 ความคิดที่ดี่ที่สุด เพื่อนำเข้าระบบประเมินจากผู้คนทั่วโลกให้เหลือ 20 ความคิดสุดท้าย และสุดท้ายคณะกรรมการที่ปรึกษาจะเลือกความคิด 5 โครงการที่จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 350 ล้านบาท) เพื่อให้พลักดันให้ความคิดที่ถูกคัดเลือกสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือผู้คนได้จริง
ถือว่าการฉลองวันเกิดครบรอบ 10 ปีของ Google ในครั้งนี้จัดว่าเป็นเรื่องที่ดี และแปลกกว่าวิธีฉลองที่องค์กรขนาดใหญ่อื่นๆทำกัน ซึ่งวิธีฉลองด้วยโครงการการกุศลเช่านี้ คงจะเรียกคะแนนความนิยมให้กับ Google ได้อีกมากเป็นทวีคุณ


credit : TechXcite

Intel เปิดเผยเทคโนโลยีการผลิตโปรเซสเซอร์แบบ 32 นาโนเมตรเป็นครั้งแรกของโลก

ความก้าวหน้าทางการพัฒนาเทคโนโลยีโพรเซสเซอร์ที่ลดลงจาก 45 นาโนเมตร เป็น 32 นาโนเมตร จากการแถลงข่าวที่ทาง Intel ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ซานฟานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าทางการพัฒนาเทคโนโลยีโพรเซสเซอร์ที่ลดลงจาก 45 นาโนเมตร เป็น 32 นาโนเมตร โดยในการสาธิตประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ที่ทำการผลิตด้วยเทคโนโลยี 32 นาโนเมตรนี้จะเป็นการทดสอบทางด้านของ Desktop (PC) และ Laptop (Notebook) ก่อน โดยการผลิตโปรเซสเซอร์ Desktop และ Laptop ด้วยเทคโนโลยี 35 นาโนเมตรนี้ ทาง intel ได้ตั้งชื่อให้ว่า “Westmere” (เวสท์เมียร์) โดยจะเริ่มผลิตในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 โดยขั้นตอนการผลิตโปรเซสเซอร์แบบ 32 นาโนเมตรนี้จะส่งผลให้การทำงานของโปรเซสเซอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทาง intel ได้แจ้งว่า “จะทยอยนำโปรเซสเซอร์ที่ใช้ในขั้นตอนการผลิน Westmere นี้ไปใช้กับ Desktop , Laptop และ Saver ตามลำดับ”

ขั้นตอนในการผลิตโปรเซสเซอร์ด้วยเทคโนโลยี 32 นาโนเมตรนี้ จะผลิตด้วยเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ที่มี Hi-K metal gate อยู่ด้วย Hi-K metal gate คืออะไร??
Hi-K เป็นเทคโนโลยีที่ Intel ได้พัฒนาขึ้นมาจากการผลิตทรานซิสเตอร์ โดยคุณสมบัติของเทคโนโลยีนี้คือ จะช่วยลดการรั่วของกระแสไฟฟ้าภายในทรานซิสเตอร์ ที่มีผลต่อการออกแบบขนาดการผลิตที่เล็กและการใช้พลังงาน เมื่อเปรียบเทียบกับในรุ่นก่อน ๆ อย่าง 45 นาโนเมตรซึ่งใช้ เทคโนโลยี Hi-K นี้เช่นกันในการผลิต จะเห็นได้ว่าด้วยขนาดที่เล็กลงทำให้การลงทรานซิสเตอร์เข้าไปในโปรเซสเซอร์ทำได้ง่ายขึ้น มีผลทำให้การใช้พลังงานลดลงไปด้วย

คุณสมบัติของโปรเซสเซอร์ที่ใช้กระบวนการผลิต “Westmere”
-เทคโนโลยี Intel Turbo Boost : เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเร่งการทำงานของคอร์ที่ไม่ได้ทำงานอยู่ในขณะนั้น เพื่อเร่งประสิทธิภาพในการประมวลผลของโปรเซสเซอร์-เทคโนโลยี Intel Hyper-Threading (2 C 4 T)
แคชมีขนาดถึง 4 MB พร้อมทั้ง integrate Memory Controller (IMC) รองรับ DDR 3 -2ch
-เนื่องจากการผลิตด้วยเทคโนโลยี 32 นาโนเมตรนี้ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับลงระบบกราฟิกในตัวเพื่อรองรับการทำงานของการใช้การ์ดจอแยกและสลับการทำงานระหว่างกราฟิกในตัวของโปรเซสเซอร์และการ์ดจอ
ตารางรหัส ของ Nahalem และ Westmere และรายละเอียดทั้งหมด-Desktop เครื่อง PC : ในส่วนของ High-End ในส่วนของ Nelgalem (45nm) รหัส Bloonfield จะมีแกนประมวลผล 4 Core กับ 8 Task ในส่วนของ Mainstream จะเป็นรหัส Lynnfield โดยจะมีแกนประมาวผล 4 Core กับ 8 Task และ Westmere (32 nm) มีรหัสที่ชื่อว่า Guftown มีแกนประมวลผลเพิ่มขึ้นเป็น 6 Core 12 Task ในด้านกลุ่ม Desktop ในระดับกลาง- ล่าง จะเป็นรหัส Ckarkdale จะมีแกนประมวลผลเพียง 2 Core 4 Tesk เนื่องจากมีชิบประมวลผลกราฟฟิก (iGFX)-Mobile เครื่อง Netbook และ Notebook : ในส่วนของ Nelgalem (45nm) รหัส Arrandale มีแกนประมวลผล 2 Core 4 Tesk และมีชิบประมวลผลกราฟฟิกใส่รวมไปด้วย -ในส่วนของ Server ทาง intel ในส่วนของ 32 นาโน นั้นยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากพอ
เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.intel.com/pressroom


credit : TechXcite

Microsoft Hohm ช่วยคนใช้พลังงานอย่างประหยัด

Microsoft เปิดตัว Microsoft Hohm โปรแกรมออนไลน์ฟรีสำหรับติดตามการใช้พลังงานในบ้าน เปิดโอกาสผู้บริโภคประเมินการใช้พลังงานและลดการบริโภค…Microsoft ให้ผู้ต้องการใช้ในสหรัฐสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเวอร์ชั่นทดสอบได้ที่ microsoft-hohm.com ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจการใช้พลังงานของตนเองมากขึ้น พร้อมรับคำแนะนำเพื่อประหยัดเงินค่าพลังงาน Microsoft Hohm แสดงให้เห็นถึงว่าการใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูงและบริการทางอินเทอร์เน็ตร่วมกันจะช่วยให้คนสามารถติดตาม เข้าใจ และบริหารจัดการการใช้พลังงานของแต่ละคนได้อย่างไร โดยโปรแกรมนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน โดยอาศัยข้อมูลการใช้พลังงานในบ้านและข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าในโปรแกรมเท่านั้น

credit : KINDANI

VAIO P รวมพลัง Atom Z550, SSD และ WiMAX

VAIO P เน็ตบุ๊คที่หลายคนต้องการอยากเป็นเจ้าของ และมีข่าวว่าจะออกรุ่นใหม่ วันนี้ก็มีข้อมูลมาเพิ่มเติมอีกครั้ง...สุดยอดเน็ตบุ๊คจาก Sony กับ VAIO P แม้หน้าตาภายนอกอาจจะดูเหมือนเดิมแต่สเปกภายในกลับปรับเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย นอกจาก ฮาร์ดดิสค์ SSD ความจุระดับสูงแล้ว ยังมีซีพียู Atom Z550 ที่ทั้งประหยัดไฟและเร็วขึ้นกว่ารุ่นเก่า ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อระดับ WiMAX ที่สามารถเชื่อมต่อได้ในระยะ 1,000 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งสเป็คนี้จะเป็นสเป็คที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น แต่ถึงเอามาใช้บ้านเรา ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ WiMAX ยังไง เพราะมันยังไม่เปิดให้ใช้อ่ะ

credit : KINDANI

SSD แบบ SATA/PATA ถ่ายโอนข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง

บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ประกาศเริ่มการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล SiliconDrive III SSD (โซลิดสเตทไดรฟ์) ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการของ SiliconSystems ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยโซลิดสเตทไดรฟ์ในตระกูล SiliconDrive III นี้จะให้ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่รวดเร็วกว่า ให้ความจุที่มากกว่า และยังมีความสามารถในการรองรับและต่อขยายระบบทางกลได้ ทำให้ไดรฟ์รุ่นนี้กลายเป็นไดรฟ์บันทึกข้อมูลที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับระบบแบบฝังตัว และสำหรับโปรแกรมการถ่ายโอนข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง เช่น ระบบการส่งเนื้อหามัลติมีเดีย และเครื่องมือสื่อที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลทำให้ไดรฟ์รุ่นนี้กลายเป็นไดรฟ์บันทึกข้อมูลที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับระบบแบบฝังตัว และสำหรับโปรแกรมถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง เช่น ระบบการส่งเนื้อหามัลติมีเดีย และเครื่องมือสื่อที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล
SSD ในตระกูล SiliconDrive III มีให้เลือกทั้งขนาด 2.5 นิ้วแบบ Serial ATA (SATA) และ Parallel ATA (PATA) และขนาด 1.8 นิ้ว ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Micro SATA ที่มีความเร็วอ่านข้อมูลแบบ SATA 3.0 กิกะบิตต่อวินาที หรืออินเทอร์เฟส ATA-7 ซึ่งมีความเร็วในการอ่านเป้าหมายได้สูงสุดถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที และความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุดถึง 80 เมกะไบต์ต่อวินาที โดยรองรับข้อมูลที่ความจุสูงสุดที่ 120 กิกะไบต์
“SiliconDrive III เป็นตัวอย่างแรกที่แสดงให้เห็นถึงการวางแผนของ WD ในการที่จะออกโซลิดสเตทไดรฟ์ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย SiliconSystems และการเปิดตัว SiliconDrive III ครั้งนี้ยังทำให้ WD สามารถเพิ่มช่องทางการวางจำหน่ายและการกระจายสินค้าทั่วโลกได้เพื่อกระตุ้นฐานลูกค้าในกลุ่ม OEM (Original Equipment Manufacturing) ให้นำเทคโนโลยีโซลิดสเตทไดรฟ์ไปใช้ในโปรแกรมการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง เช่น ระบบการส่งเนื้อหามัลติมีเดีย และเครื่องมือสื่อที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล เพิ่มเติมจากการใช้ระบบแบบฝังตัวแบบเก่าของ SiliconSystems” ไมเคิล ฮาเจ็ก รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจจัดเก็บข้อมูล SSD ของ WD กล่าว และเสริมว่า “SiliconDrive III เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้า OEM ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ความจุ ความน่าเชื่อถือ และปริมาณข้อมูลที่มากกว่าเดิมในแอพพลิเคชั่นของพวกเขา”
ทั้งนี้ SiliconDrive III ได้รับการออกแบบและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือในระดับสูงสำหรับความต้องการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันในตลาดระบบแบบฝังตัว เครื่องมือที่ใช้กับสื่อต่างๆ และการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง โดยประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือที่เป็นผลสำเร็จนี้เกิดจากการรวมเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูงของบริษัทในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในตระกูล SiliconDrive III ทั้งที่ได้จดสิทธิบัตรแล้ว และอยู่ระหว่างการรอจดสิทธิบัตร เทคโนโลยี PowerArmor, SiSMART และ SolidStor ของ WD ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว และอยู่ระหว่างการรอจดสิทธิบัตรสามารถตอบโจทย์การพิจารณาในด้านการออกแบบที่สำคัญสำหรับลูกค้า OEM ได้ เช่น การขจัดปัญหาเรื่องไดรฟ์ทำงานขัดข้องสืบเนื่องจากความผิดปกติทางไฟฟ้า ความสามารถในการตรวจสอบอายุการใช้งานของ SiliconDrive แบบเรียลไทม์ และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูงแบบครบวงจร ที่สามารถรับประกันถึงความสมบูรณ์ของข้อมูล และอายุการใช้งานของโซลิดสเตทไดรฟ์สำหรับการปรับใช้งานหลายปี
สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.wdc.com/en/products/index.asp?cat=21

credit : TechXcite

Google เปิดบริการ AdSense บนมือถือ

Google เปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น AdSence เวอร์ชั่นเบต้าบนมือถือแล้ว...ผู้ใช้มือถือแพลต์ฟอร์ม Android และ iPhone สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบแอปพลิเคชั่น AdSense ได้แล้ววันนี้เพียงแค่ลงชื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งในโครงการ AdSense for Mobile เวอร์ชั่นเบต้า AdSense for Mobile มีหลักการทำงานแตกต่างไปจาก AdSense ตัวเดิมที่เปิดให้บริการอยู่ โดยในเวอร์ชั่นของมือถือจะเปิดโอกาศให้บรรดานักพัฒนาสามารถเพิ่มโค้ดที่แสดงผลข้อความเพื่อเชื่อมต่อไปยัง Adsense Network บนแอปพลิคชั่นได้ และคิดรายได้จากจำนวนของผู้เข้าชมด้วยการเก็บสถิติของการคลิ๊กเข้าชม แม้ว่า AdSense จะไม่ใช่เจ้าแรกที่เปิดให้บริการแต่นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่าด้วยชื่อเสียงของ Google และ Google Adsense จะทำให้นักพัฒนาหันมาสนใจบริการนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

WD My Book Studio Edition II ขึ้นแท่นเอ็กเทอร์นัลฮาร์ดไดรฟ์ความจุมากที่สุดในโลกถึง 4TB

WD(R) เปิดตัวดูอัลฮาร์ดไดรฟ์ My Book Studio Edition II รุ่นใหม่ ขึ้นแท่นเอ็กเทอร์นัล ฮาร์ดไดรฟ์ความจุมากที่สุดในโลกถึง 4TBบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) หนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ประกาศเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ My Book(R) Studio EditionTM II รุ่นใหม่ ขนาดความจุเต็มอิ่ม 4 เทราไบต์ เป็นฮาร์ดไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกแบบดูอัล-ไดรฟ์ (dual-drive storage systems) ที่ออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องแมคได้อย่างลงตัวดีเยี่ยม มอบประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในอัตราการใช้พลังงานเพียงน้อยนิด ฮาร์ดไดรฟ์ My Book(R) Studio EditionTM II รุ่นใหม่แบบดูอัล-ไดรฟ์มีจำหน่ายแล้ววันนี้โดยผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ รวมทั้งร้านค้าออนไลน์ของ WD (www.shopwd.com)
ฮาร์ดไดรฟ์ My Book(R) Studio Edition II รุ่นใหม่ สามารถทำงานร่วมกับแอพลิเคชั่น Apple(R) Time MachineTM ในการสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ และยังฟอร์แมตตัวไดรฟ์สำหรับคอมพิวเตอร์แบบแมค[1] ซึ่งฮาร์ดไดรฟ์ My Book(R) Studio EditionTM II รุ่นใหม่ความจุ 4TB จะถูกปรับให้อยู่ในโหมด RAID 0 ด้วยระบบเชื่อมต่อความเร็วสูงเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดออกแบบเพื่อผู้ใช้ที่เป็นนักสร้างสรรค์มืออาชีพ กลุ่มงานเครือข่าย สำนักงานขนาดเล็ก และผู้ใช้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์เพื่อโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็ว ฮาร์ดไดรฟ์ My Book(R) Studio EditionTM II รุ่นใหม่สามารถเชื่อมต่อการใช้งานได้มากถึง 4 ช่องทาง ทั้งแบบ eSATA และ FireWire(R) 800 เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด หรือจะเลือกใช้ FireWire(R) 400 และ USB 2.0 เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่น และด้วยเทคโนโลยี WD GreenPower TechnologyTM จึงทำให้ฮาร์ดไดรฟ์ของ WD เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม[2] และมีคุณสมบัติเป็นเลิศด้านการประหยัดพลังงานและทำงานเงียบกริบ"ไม่ว่าจะในสตูดิโอ ที่บ้าน หรือการเดินทางไปไหนต่อไหน ผมมักจะจัดเก็บไฟล์รูปภาพและไฟล์งานทุกอย่างเอาไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ของ WD" มร.ปีเตอร์ รีด มิลเลอร์ ช่างภาพของนิตยสาร Sports Illustrated กล่าวและว่า "ฮาร์ดไดรฟ์ที่ผมใช้งานได้แก่ รุ่น My Book Studio II และ WD ShareSpace ซึ่งเป็นไดรฟ์แบบเครือข่ายที่ติดตั้งไว้ในบ้านและในสตูดิโอ หรืออย่างน้อยๆ ผมจะต้องพกฮาร์ดไดรฟ์รุ่น My Passport(R) ไว้ติดตัวตลอดเวลาเมื่อผมอยู่ข้างนอก เพราะว่ามันปลอดภัย รวดเร็วทันใจ และไว้วางใจได้นั่นเอง ซึ่งในการทำงานของผม ผมจำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่ไว้วางใจได้เต็มร้อย เพื่อการปกป้องสิ่งที่เป็นปากท้องของผม และสินค้า WD สามารถตอบสนองความต้องการของผมได้เป็นอย่างดี"
"My Book Studio Edition II รุ่นใหม่ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักสร้างสรรค์มืออาชีพที่ต้องการไดรฟ์ที่มีความจุมหาศาลผสานกับประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วทะลุขีด" มร. เดล พิสติลลี รองประธานฝ่ายการตลาดกลุ่มสินค้าฮาร์ดไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกของ WD กล่าวและว่า "ด้วยความจุขนาด 4 เทราไบต์ของไดรฟ์ใหม่ ช่วยให้ช่างภาพ ศิลปินงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ช่างตัดต่อวีดีโอ หรือแม้แต่ผู้ใช้งานตามบ้านที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บไฟล์ภาพวีดีโอคุณภาพสูงได้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่จำเป็นต่อการทำงานของพวกเขา ร่วมกับแอพลิเคชั่นสำหรับตัดต่อวิดีโอ"
ประสิทธิภาพการทำงานทะลุขีดด้วย RAID 0ด้วยความเร็วทะลุขีดบนการเชื่อมต่อแบบ eSATA หรือ FireWire 800 ร่วมกับการทำงานโหมด RAID 0 ช่วยเพิ่มสมรรถนะด้านความเร็วในการใช้งาน ช่วยให้การตัดต่อวีดีโอที่ราบลื่น รวมถึงการเรนเดอร์วัตถุแบบ 3 มิติที่ซับซ้อนหรือจะเป็นเทคนิคพิเศษต่างๆ ที่ช่วยให้การบันทึกข้อมูลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายดาย ด้วยคุณสมบัติ RIAD 0 ผู้ใช้จึงมีแหล่งจัดเก็บข้อมูลไฟล์ดิจิตอลต่างๆ ได้มหาศาลถึง 4 เทราไบต์ ภายในอุปกรณ์ที่ออกแบบให้ดูสง่าภูมิฐาน My Book Studio Edition II รุ่นใหม่มีขนาดกะทัดรัดแต่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับบรรจุรูปภาพดิจิตอล ภาพยนตร์คุณภาพสูงหลายร้อยชั่วโมง รวมทั้งโฮมวีดีโอ (ขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์และรูปแบบ การตั้งค่า คุณสมบัติ ซอฟต์แวร์และตัวแปรอื่นๆ)
คุณสมบัติได้รับการฟอร์แมตสำหรับคอมพิวเตอร์ระบบ Mac และนี่คือคุณสมบัติที่เพิ่มเติมสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 4 เทราไบต์- ประสิทธิภาพการทำงานเร็วเป็นพิเศษ พร้อมเชื่อมต่อได้ 4 ช่องทาง (FireWire 400/800, eSATA, USB 2.0)- อุณหภูมิต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี WD GreenPower Technology ทำให้ฮาร์ดไดรฟ์ของ WD ใช้พลังงานเพียงหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับดูอัลฮาร์ดไดรฟ์แบบติดตั้งภายนอกทั่วๆ ไป มีโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ช่วยจัดการความเย็นและระบบประหยัดพลังงานได้ดีกว่า รวมถึงการออกแบบที่ไม่ต้องใช้พัดลม ไดรฟ์จึงทำงานเงียบกริบ- ช่องทางเชื่อมต่อมากถึง 4 ช่องทาง ซึ่งมีทั้งการเชื่อมต่อความเร็วสูงพิเศษแบบ eSATA และ FireWire 800 รวมถึงการเชื่อมต่อ FireWire 400 และ USB 2.0 ที่ยืดหยุ่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น - มาพร้อมซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ และโปรแกรมแบ็คอัพ- ผู้ใช้สามารถซ่อมบำรุงได้เอง สามารถเปิดกล่องและเปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ภายในได้ด้วยตัวเอง- มีมาตรวัดแสดงความจุของไดรฟ์ ช่วยให้ทราบจำนวนความจุที่คงเหลือสำหรับการใช้งาน- สินค้ารับประกันนาน 5 ปีเต็ม

credit : techXcite

เพิ่มระยะทางแห่งการใช้เครือข่ายไร้สาย ด้วย EnGenius EUB-362 EXT

ปัญหาของการใช้งานเครือข่ายไร้สาย เท่าที่เราพบเจอกัน เท่าที่เห้นก็จะเป็นเรื่องของระยะทางที่เป็นข้อจำกัด ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ในระยะทางไกลๆ ได้ และยิ่งหากมีกำแพง หรือวัสดุกีดขวางกั้นอยู่ตรงกลาง ก็ยิ่งทำให้ระยะทางในการใช้งานนั้น สั้นลงกว่าเดิมอีกอย่างมาก หรืออาจจะทำให้ไม่สามารถรับส่งสัญญาณระหว่างคอมพิวเตอร์ กับแอคเซสพอยนต์ได้เลย ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการหันไปคบกับการ์ดเน็ตเวิร์กไร้สายแบบภายนอก ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้งานกันหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะมีอินเทอร์เฟซแบบ USB ให้เลือกใช้งาน ที่ให้เราติดตั้งเข้ากับคอมพิวเตอร์แบบใดก็ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะ สำหรับคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ที่อาจจะมีปัญหากับการรับสัญญาณจากแอคเซสพอยนต์ไม่เพียงพอ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้การ์ดเน็ตเวิร์กที่มีความไวในการรับสัญญาณได้สูงๆ มาใช้งานได้
EUB-362 EXT จาก EnGenius คือการ์ดเน็ตเวิร์กแบบภายนอก ที่ต่อใช้งานผ่านทางพอร์ต USB โดยจุดเด่นของ EUB-362 นี้ก็คือเสาอากาศที่อยู่ภายนอก ที่ให้อัตราของการรับสัญญาณที่ดีกว่าการ์ดเน็ตเวิร์กทั่วๆ ไป อีกยังยังสามารถเปลี่ยนเสาอากาศได้ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการระยะทางในการรับส่งที่ดีขึ้น โดยคุณสมบัติการทำงานนั้นเรียกว่ามีอยู่อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของความปลอดภัย อย่าง WPA และ WPA2 การรองรับไวร์เลสมัลติมีเดียด้วยมาตรฐานของ QoS 802.11e เป็นต้น
ตามปกติ EUB-362 EXT มาพร้อมกับเสาอากาศที่ให้ความแรงของสัญญาณ 23dB ซึ่งก็นับว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป ตามบ้าน หรืออพาร์ทเมนต์ ซึ่งหากใช้เราเตอร์อินเทอร์เน็ตและการ์ดเน็ตเวิร์กทั่วๆ ไป อาจจะมีบางจุดที่อับสัญญาณของเครือข่ายไร้สายอยู่ แต่ด้วยเสาอากาศระดับ 2dB ช่วยให้ทุกๆ พื้นที่ภายในบริเวณบ้าน สามารถรับสัญญาณของเครือข่ายไร้สายได้ทั้งหมด และมีประสิทธิภาพของการทะลุทะลวงที่ดี จากการที่สามารถรับส่งสัญญาณได้สูงมากขึ้นกว่าเดิม
EUB-362EXT รองรับการใช้งานในโหมดของ 108 Mbps ตามโหมดการทำงานของ Super G ซึ่งในโหมดนี้แม้จะมีความเร็วในการทำงานที่สูงขึ้น จนสามารถรับส่งสัญญาณวิดีโอแบบสตรีมมิ่งได้ แต่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ก็ควรจะเป็นการทำงานร่วมกับเราเตอร์ยี่ห้อเดียวกัน เพราแม้เราเตอร์อื่นๆ จะบอกว่าทำงานในโหมด Super G เหมือนกัน แต่ก็อาจจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพก็ได้
ในเรื่องของการติดตั้ง EUB-362EXT เพียงแค่ลงซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ที่มาด้วย จากนั้นติดตั้ง EUB-362EXT เข้ากับพีซีผ่านทางพอร์ต USB ทั้งหมดก็พร้อมทำงานแล้ว โดยไดรเวอร์ของ EUB-362EXT จะเข้าทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ไร้สาย ที่มีอยู่ในเครื่อง ซึ่งเราสามารถกำหนด Profile ในการเข้าใช้งานของเครือข่ายแต่ละแห่งได้
ในการทดสอบประสิทธิภาพในการรับส่งของ EUB-362EXT เราได้ลองใช้งานร่วมกับเราเตอร์ปกติทั่วๆ ไป และติดตั้ง EUB-362EXT เข้ากับโน้ตบุ๊ก ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมของการทำงานจริงๆ ซึ่งเรามักจะพบกันเสมอกับการติดตั้งในบ้าน หรืออาคารทีมีชั้นที่อยู่อาศัยสามหรือสี่ชันขึ้นไป ซึ่งมักจะมีปัญหากับการที่สัญญาณของเราเตอร์ส่งขึ้นไปไม่ถึงเครื่องลูก โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งสัญญาณข้ามชั้นกัน ที่กั้นกลางด้วยเพดาน หรือว่าวัสดุกั้นอื่นๆ ทำให้สัญญาณนั้นดรอปลง ไม่สามารถส่งไปถึงเครื่องลูกได้ โดยเฉพาะกับบรรดาโน้ตบุ๊กที่ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณมีจำกัด ด้วยขนาดของเสาอากาศที่ไม่สามารถติดตั้งให้มีกำลังค่อนข้างมากได้ แต่ประสิทธิภาพการรับส่งสัญญานของ EUB-362EXT ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องลูกกับเราเตอร์เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าจะเราจะวางเราเตอร์ไว้ชั้นหนึ่ง แล้ว ขึ้นไปทำงานบนชั้นสามหรือว่าชั้นสี่ของบ้านทำได้ ขณะที่หากเป็นการ์ดเน็ตเวิร์กไร้สายที่ติดมากับโน้ตบุ๊กตัวเดิมๆ ไม่สามารถคอนเน็กได้เลย
แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพในการรับสัญญาณที่ดีขึ้นนี้ ทำให้จุดอับภายในบ้านแต่ละแห่ง ที่มักจะเป็นปัญหาไม่สามารถใช้งานได้หมดไป นอกจากนี้หากต้องการระยะการใช้งานเพิ่มขึ้นอีก EnGenius ได้ให้เสาอากาศพิเศษขนาด 5dBi ที่ให้ประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลสูงกว่าธรรมดา
ถ้าให้บอกว่า EUB-362EXT ตัวนี้ เหมาะสำหรับการใช้งานแบบไหน ก็คงต้องบอกว่า ถ้าคุณมีปัญหากับการใช้งานเราเตอร์ ที่อยู่ห่างไปคนละชั้น หรือว่าอยู่คนละห้อง ซึ่งรับสัญญาณเน็ตเวิร์กไร้สายได้ไม่ค่อยดี ก็น่าจะหา EUB-362EXT มาใช้งานได้

credit : www.arip.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Kingstonเปิดตัว DataTraveler200 Flash Drive รุ่นใหม่ที่ความจุถึง 128 GB

โดยจะเริ่มต้นที่ความจุ 32 GB , 64 GB และ 128 GB แน่นอนครับว่า อนาคตคงมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเครื่องมือเก็บข้อมูลอย่างแน่นอน Kingstion ได้เปิดตัว Flash Drive รุ่นใหม่ล่าสุด Data Traveler 200 ที่มาพร้อมกับความจุที่สูงสุดในจำนวน Flash Drive ที่เคยมีมาโดย Kingston ได้ออกรุ่น Data Traveler 200 ออกมาทั้งหมด 3 ความจุให้เลือกใช้ โดยจะเริ่มต้นที่ึความจุ 32 GB , 64 GB และ 128 GB แน่นอนครับว่า อนาคตคงมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเครื่องมือเก็บข้อมูลอย่างแน่นอนหลังจาที่เราเห็นจากการพัฒนา Flash Drive ที่มีความจุที่สูงทุกวัน ในส่วนราคาของ Kingston Traveler 200 USB Flash Drive แบ่งตามความจุได้ดังนี้ึคือ
32 GB = 120 เหรียญ US (ราคาไทยประมาณ 4,800 บ.) 64 GB = 213 เหรียญ US (ราคาไทยประมาณ 8,520 บ.)128 GB = 546 เหรียยญ US (ราคาไทยประมาณ 21,840 บ.)
สำหรับประเทศไทย คงต้องรอว่าจะมีใครนำเข้ามาหรือไม่ แต่คาดว่าราคาคงจะสูงตามความจุที่มีอยู่ด้วย เพราะความจุมากขนาดรนี้สามารถแทน HDD ลูกเล็ก ๆ อย่าง SSD ได้ได้เลยทีเดียว (ราคาก็ใกล้ ๆ SSD เลย)



credit : techXcite

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อาการของเครื่องที่ติดไวรัส (Virus computer)

....สามารถสังเกตุการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้อาจเป็นไปได้ว่าได้มีไวรัสเข้าไปติดอยู่ ในเครื่องแล้ว อาการที่ว่านั้นได้แก่



1.ใช้เวลานานผิดปกติในการเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงาน



2.ขนาดของโปรแกรมใหญ่ขึ้น



3.วันเวลาของโปรแกรมเปลี่ยนไป



4.ข้อความที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นกลับถูกแสดงขึ้นมาบ่อ ย ๆ



5.เกิดอักษรหรือข้อความประหลาดบนหน้าจอ



6.เครื่องส่งเสียงออกทางลำโพงโดยไม่ได้เกิดจากโปรแกร มที่ใช้อยู่



7.แป้นพิมพ์ทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงานเลย



8.ขนาดของหน่วยความจำที่เหลือลดน้อยกว่าปกติ โดยหาเหตุผลไม่ได้



9.ไฟล์แสดงสถานะการทำงานของดิสก์ติดค้างนานกว่าที่เคยเป็น



10.ไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมที่เคยใช้อยู่ ๆ ก็หายไป



11.เครื่องทำงานช้าลง12.เครื่องบูตตัวเองโดยไม่ได้สั่ง



13.ระบบหยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ



14.มีการรายงานว่าจำนวนเซกเตอร์ที่เสียมีจำนวน เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนโดยที่ ยังไม่ได้ใช้โปรแกรมใดเข้าไปตรวจหาเลย.....

credit : http://viruschill.blogspot.com/

การแก้ไขปัญหาไวรัส

การแก้ไขปัญหาไวรัสลงเครื่องแบบยั่งยืน

ปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันที่พบเห็นกันเป็นอย่างมากก็คือ ?การหาคลิปหลุดของดาราไม่เจอ? ไม่ช่าย เรื่องของ ?ปัญหาไวรัสลงเครื่อง? ต่างหาก หลายคน (รวมทั้งตัวผมเอง) ก็เจอปัญหานี้อยู่เป็นระยะๆ จากประสบการณ์ของผมเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส ( Anti-Virus Program) ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน) รวมๆ ก็ประมาณ 7-8 ยี่ห้อแล้ว แต่ก็ยังเจอปัญหานี้อยู่ร่ำไป จนเริ่มรู้สึกว่า ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ (แม้กระทั่งแอนตี้ไวรัส)
แล้วเราจะแก้ไขปัญหาเรื่องไวรัสนี้อย่างไรดีล่ะ? วันนี้ผมจะมาบอกวิธีการป้องกันที่ง่ายจนไม่น่าเชื่อให้คุณลองเอาไปทำดูนะครับ
1. ควรทำการ update ฐานข้อมูลไวรัสของโปรแกรมป้องกันไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณบ่อยๆ นะครับ (ไม่ว่าคุณจะได้มาฟรีหรือเสียเงินก็ตาม) เพราะการ update บ่อยๆ จะทำให้เครื่องของเรารู้จักไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ดีขึ้น จะได้ไม่เป็นกรณีเชิญโจรเข้ามานั่งเล่นในบ้านของเรานะครับ ถ้าเครื่องเราไม่ได้ต่ออินเตอร์เน็ทเป็นประจำ ก็ลองหาวิธีการ update แบบ off-line ก็ได้ครับ
2. ติดตั้งโปรแกรมจำพวก Disable การ Autorun ของอุปกรณ์ ตัวหนึ่งที่ผมว่าดีและฟรีก็คือ CPE17 Autorun Killer และอีกตัวก็คือ USB Security Disk (เครื่องที่ผมใช้งานอยู่ลงทั้งสองตัวนี้ครับ) โดยการทำงานคร่าวของมันก็คือ ?จะหยุดการ Autorun เมื่อตอนที่เราเสียบ Thumb Drive (อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ USB ) หรือใส่แผ่นซีดี? เพราะไวรัสหลายตัวเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านช่องทางนี้
3. เมื่อติดตั้งแล้วโปรแกรม Disble Autorun แล้ว หลังจากเสียบอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ USB แล้ว อย่าเพิ่งเริ่มใช้งาน ให้ลองคลิ้กขวาที่เม้าส์ ที่ Drive ของ USB เสียบอยู่ เลือกใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสสแกนดูก่อนเปิด จะช่วยป้องกันการติดไวรัสได้ดีเลยทีเดียว
4.หลังจากดาวน์โหลดไฟล์หรือได้รับไฟล์อะไรใหม่ก็ตาม อย่าเพิ่งเปิด เสียเวลาสักนิด สแกนดูก่อน เพราะส่วนใหญ่ไฟล์ที่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ทมักจะแนบไวรัสไว้ด้วย (พวก Crack,Sereal Number,Keygen นี่ตัวดีเลย)
5. การสำรองข้อมูลหรือการใช้ System Restore ก็เป็นการป้องกันที่ดี (ถ้าใครสำรองข้อมูลด้วยการ Ghost ได้นี่ยิ่งดีใหญ่เลยครับ ผมก็ทำไว้อยู่เหมือนกัน windows มีปัญหาปุ๊ป ลง Ghost ปั๊บ กลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิม)
6. ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ไม่ควรเก็บไว้ใน ไดรว์ C: เพราะหากเกิดปัญหาอะไรก็ตามจนถึงขั้นที่ต้อง format เครื่องใหม่ ข้อมูลใน ไดรว์ C: จะหายไปทั้งหมด ถามว่ากู้กลับมาได้ไหม ตอบว่าได้ครับ แต่อาจไม่สมบูรณ์ ถ้าอย่างนั้น เก็บไว้ที่อื่นง่ายกว่าเยอะครับ
แค่ไม่กี่ข้อนี้ผมว่า เครื่องของคุณจะลดความเสี่ยงในเรื่องปัญหาไวรัสลงเครื่องไปได้มากโขเลยครับ ง่ายดีไช่ไหมครับ

credit : www.manacomputers.com

4 วิธีทำให้เน็ตแรง

1.เพิ่มความเร็วในการเล่น internetการใช้ internet บางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็ช้า ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายอย่าง วิธีนี้ก็ทำให้ internet เร็วขึ้นและถูกวิธีไปที่ start---> run---> พิมพ์ gpedit.msc กด okจะแสดงหน้าต่าง Group Policyที่ computer config.. เลือก Administrative Templatesหัวข้อ network เลือกที่ QoS Packet Schedulerมองหน้าต่างขวามือ ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwithจะขึ้นหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwith Propoties เลือกแถบ setting คลิกเลือกที่ช่อง Enableในกรอบ Bandwith limit(%) ปรับเป็น 0 แล้วกด ok**********************************************

2.MTU เป็นหน่วยหนึ่งที่ใช้กำหนดค่าให้กับการ รับส่งข้อมูลผ่านระบบเครื่อข่าย ที่สูงสุดในการส่งแต่ละครั้งถ้าเราตั้งค่าให้ค้นหาค่า MTU แบบอัตโนมัติ ก็จะทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิมากขึ้นไปที่ Start---> run--->พิมพ์ regedit แล้วกด OkHKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services--->Tcpip---> Parametersคลิกขวาที่ Parameters เลือก new > DWORD Valueตั้งชื่อว่า EnablePMTUDiscoveryแล้วดับเบิ้ลคลิก พิมพ์ค่าเป็น 1แล้วกด ok**********************************************

3.เพิ่มการรับส่งข้อมูล MTUการเพิ่มค่า MTU ให้มากที่สุด ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ระบบการรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไปที่ Start---> Run---> พิมพ์ regedit แล้วกด OkHKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services--->Tcpip---> Parameters---> interfacesคลิกที่หน้า interfaces จะมีหลายโฟลเดอร์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แรก---> new--> DWORD Value--->แล้วตั้งชื่อว่า MTUแล้วดับเบิ้ลคลิกใส่ ค่าถ้าเป็น dial-up Connection ใส่ค่า = 576ถ้าเป็น PPP Broadband Connecting ใส่ค่า = 1492ถ้าเป็น Ethernet , DSL , Cable Broadband Connection ใส่ค่า = 1500**********************************************

4.เปิดหน้าต่าง IE ให้ทำงานได้เร็วขึ้นเมื่อใช้งาน IE ไปนานๆ โปรแกรมจะช้าลงทุกที สามารถทำให้เร็วเหมือนใหม่ได้ ดังนี้ไปที่ Start---> Run---> พิมพ์ regedit แล้วกด OkHKEY_LOCAL_MACHINE---> Software---> Microsoft---> Windows---> CurrentVersion---> Explorer---> RemoteComputer---> NameSpaceคลิกขวาที่โฟลเดอร์ D6277990-4C6A-11CF-8D87-00AA0060F5BF แล้ว delete

credit : http://viruschill.blogspot.com